เปรียบเทรียบรุ่น Unifi U6-Pro รุ่นใหม่กว่า แต่ทำไมราคาถูกกว่า U6-LR [ ฉบับดูเข้าใจง่าย ]

บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการเปรียบเทียบระหว่าง Unifi U6-Pro และ U6-LR ซึ่งเป็น Access Point รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Ubiquiti Networks โดยเฉพาะเรื่องราคา ในขณะที่ U6-Pro เป็นรุ่นที่มีสเปกและความสามารถที่สูงกว่า U6-LR แต่ราคาต่ำกว่า ผู้อ่านจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจในการเลือกใช้ Access Point ระหว่างสองรุ่นดังกล่าว

ในบทความนี้จะอธิบายถึงสเปกและความสามารถของทั้ง U6-Pro และ U6-LR รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ U6-Pro มีราคาถูกกว่า U6-LR โดยจะเน้นเรื่องการออกแบบของ Access Point แต่ละรุ่น การรองรับแบบ Dual-Band และการจ่ายไฟผ่านทาง PoE (Power over Ethernet) และอื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกใช้ Access Point ที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตนเองได้อย่างถูกต้อง

เราจะเริ่มต้นโดยการอธิบายสเปกและความสามารถของ Unifi U6-Pro ก่อน โดย U6-Pro เป็น Access Point ที่มีความสามารถในการรองรับแบบ Dual-Band ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz และสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้มากถึง 350 + อุปกรณ์ นอกจากนี้ U6-Pro ยังรองรับการจ่ายไฟผ่านทาง PoE (Power over Ethernet) ที่รองรับมาตรฐาน 802.3at หรือ PoE+ ซึ่งจะมีกำลังไฟสูงกว่ามาตรฐาน PoE ชนิดอื่นๆ และมีความสามารถในการส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่รวดเร็วและเสถียรกว่า U6-LR

ในทางกลับกัน U6-LR มีความสามารถในการรองรับแบบ Dual-Band ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz และสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้มากถึง 300+ อุปกรณ์ แต่ไม่รองรับการจ่ายไฟผ่านทาง PoE+ แต่ใช้ PoE ธรรมดาเท่านั้น

เหตุผลที่ U6-Pro มีราคาถูกกว่า U6-LR เนื่องจากการออกแบบที่แตกต่างกัน โดย U6-LR มีการออกแบบที่เน้นความทนทานและยังมีการออกแบบสายอากาศเพื่อให้มีรัศมีทำการได้ไกล ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความเสถียรในการรับสัญญาณ Wi-Fi ในระยะที่ไกลโดยเฉพาะในสถานที่ที่มีสัญญาณ Wi-Fi ไม่เสถียร เช่น โรงแรม หรือบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่ ในขณะที่ U6-Pro ออกแบบให้มีความสามารถในการจัดการและควบคุมการเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีการรองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual-Band และรองรับ PoE+ ที่มีกำลังไฟสูงกว่า PoE มาตรฐานอื่นๆ แต่ไม่ได้มีการออกแบบสายอากาศให้มีรัศมีทำการได้ไกลเหมือนกับ U6-LR

ด้วยความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual-Band และการรองรับ PoE+ ที่มีกำลังไฟสูงกว่า PoE ทำให้ U6-Pro เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความต้องการในความเร็วและความเสถียรสูง เช่น อาคารสำนักงานหรือโรงแรมที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากๆ โดยทั้งสองรุ่นนี้สามารถทำงานร่วมกับ Controller ของ Ubiquiti Networks ผ่าน Application ที่ให้บริการฟรีที่ชื่อว่า Unifi Application

ดังนั้นการเลือกใช้ Access Point ที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ผู้ใช้งานควรพิจารณาตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง โดยควรพิจารณาการออกแบบและสเปกของ Access Point ที่ต้องการใช้งานให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อและการใช้งานอุปกรณ์เครือข่าย Ubiquiti Networks ท่านสามารถติดต่อเราได้ที่ Line Official ของเรา ที่พร้อมจะให้บริการและช่วยเหลือในทุกคำถาม